แชร์ประสบการณ์การเรียก “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” จากประกันของคู่กรณีเมื่อรถเราต้องเข้าอู่
อู่ซ่อมรถ อุบัติเหตุบนท้องถนน ประกันภัยรถ ร้องทุกข์ คุ้มครองผู้บริโภค หลายๆ ท่านน่าจะเคยผ่านประสบการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเอารถเข้าอู่มาแล้ว แล้วเคยเฉลียวใจมั๊ยครับว่า ถ้าเราไม่ใช่ฝ่ายผิด ไอ้ช่วงที่เราต้องเอารถเข้าอู่แล้วไม่มีรถใช้เนี่ย ทำไมเราต้องเดือดร้อนออกค่าร้งค่ารถเอง มันต้องมีคนรับผิดชอบสิ…
วันนี้เรามี แชร์ประสบการณ์+ วิธีการเรียก “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” จากประกันของคู่กรณีเมื่อรถเราต้องเข้าอู่ จาก กระทู้สนทนา มาเล่าให้ฟังครับ
ผมเองขับรถมาได้ไม่นาน แค่สองปีกว่าเอง แต่ดันโชคดีเอารถเข้าอู่ไปแล้ว 3 ครั้ง โดยทุกครั้ง โดนคนอื่นมาสร้างความเดือดร้อนให้ตลอด
ครั้งแรก วนรถอยู่ในห้าง หาที่จอด ก็ดันโดนป้าขับรถเลี้ยวออกมาสอยเข้าด้านข้างคนขับเต็มๆ
ครั้งที่ 2 จอรถติดไฟแดงอยู่ดีๆ ก็เจอสอยตูดเข้าเต็มๆ เพราะคันที่ขับตามมาดันเล่นโทรศัพท์ไม่มองถนน
ครั้งที่ 3 ช่วงที่รออะไหล่ของที่จะซ่อมครั้งที่ 2 ก็โดนหกล้อที่อยู่เลนกลางเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยมาเบียดผมที่อยู่เลยซ้ายข้างๆ มันซะอย่างนั้น
ครั้งที่ 4 ขับรถอยู่กลางดึก สิบล้อคันข้างหน้าแม่มเพลารถหลุดทิ้งเอาไว้กลางสะพานข้ามแยกรามอินทรา กม.8 มันมืดมากผมมองไม่เห็นเหยียบไปเต็มๆ รถบิน ช่วงล่างพัง
ครั้งแรกเลยช่วงที่คุยกับประกันผมก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า
“เฮ้ย!!! แล้วค่าเดินทางช่วงไม่มีรถใครจะรับผิดชอบเนี่ย ค่า Taxi วันละหลายร้อยเลยนะ”
เลยถามประกันของผมเลย ประกันของผมก็รู้งานครับ ก็บอกว่า
“พี่เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากประกันของคู่กรณีได้ครับ แต่ได้เฉพาะเคสที่พี่เป็นฝ่ายถูกเท่านั้นนะ”
ผมก็เลยทำการศึกษาจาก google ดู ครับ ก็ได้รายละเอียด วิธีเรียกค่าใช้จ่ายตรงนี้มา (ใครสนใจวิธีแบบละเอียดก็ไปหาอ่านเอาได้นะครับ พวกเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียม หาไม่ยาก)
พอรถผมซ่อมเสร็จ ผมก็ทำการไปติดต่อประกันของคู่กรณีเลย จากที่ผมศึกษาข้อมูลมา ทำให้ผมรู้ว่าพวกนี้มันจะไม่ยอมจ่ายตามที่เราเรียกร้อง ผมเลยเรียกเงินไปเผื่อให้มันกด
ผลก็ตามคาดครับ มันกดจริงๆ แต่ก็กดลงมาอยู่ที่ราคาที่ผมเผื่อไว้เล้ว เลยโอเค จบได้ทันที รับเงินกลับบ้าน
ครั้งที่ 2 คราวนี้ปัญหาเยอะครับ มันไม่ยอมให้ตามที่ผมขอ ผมเรียกไปวันละ 500 มันจะให้วันละ 300 แล้วอ้างอีกว่า รถผมโดนชนตูด ดูจากรูปไม่น่าจะซ่อมนาน
ผมเลยโวยไปว่าดูแต่รูปได้ไง ในรูปกันชนมันเด้งออกมาแล้ว แต่ข้างในมันบุบ ต้องเปลี่ยนโครงตัวถังชิ้นหลัง ใช้เวลานาน
มันไม่เชื่อ มันบอกว่าอู่มันบอกว่าซ่อมสามวันก็เสร็จ (ผมเรียกไป 12 วัน)
ผมเลยบอกว่า ผมไม่ได้ซ่อมกับอู่ของคุณ คุณจะมาอ้างอู่คุณได้ไง ลองโทรไปถามอู่ที่ผมซ่อมสิ
มันก็วางหูไปแล้วโทรกลับมาบอกว่าถามอู่ที่ผมไปซ่อมแล้ว เค้าบอกว่า 3 วันก็เสร็จ
ผมเลยโทรไปหาอู่ผม กะจะไปโวย ปรากฏว่าอู่ผมบอกว่าไม่เห็นมีใครโทรมาเลย อู่ที่ผมซ่อมเลยโทรไปด่ามันว่ามาแอบอ้างชื่อได้ไง
ซักพักหัวหน้าของมันโทรมาหาผม บอกว่าผมไปใส่ร้ายมัน มันไม่ได้บอกว่าโทรไปคุยกับอู่ผม ผมเลยสวนมันไปว่า ผมอัดเสียงไว้ตลอดที่คุยกัน แน่ใจนะว่าไม่ได้พูด
มันเสียงเปลี่ยนเลย แล้วก็ยอมให้ผมตามที่เรียกร้องอย่างง่ายดาย
สูตรของไอ้พวกนี้มันจะต่อราคาก่อนครับ แล้วพอเรายอมมันจะหักคอเราอีกทีด้วยการหักวัน เช่น วันหยุดไม่คิดตังค์ให้เป็นต้น
ครั้งที่ 3 ครั้งนี้แสบครับ ผมเรียกไปวันละ 500 บาท มันบอกว่าให้ได้แค่ 300 ผมไม่ยอม มันบอกว่าไม่ยอมก็ไปฟ้องเอาเอง
ผมเลยจัดให้ ผมฟ้อง คปภ. เรียบร้อยเลย ครึ่งเดือน คปภ. โทรมาเรียกไปรับเงินเต็มจำนวนเลย พร้อมทั้งบอกว่า อย่าไปยอมพวกมัน โดยเรทพื้นฐานแล้วต้องชดเชยให้วันละ 500 อยู่แล้ว ถ้าเรามีหลักฐานที่อยู่ที่ทำงาน ระยะทางในการเดินทางชัดเจนขนาดนี้ ยังไงก็ต้องจ่าย ไอ้พวกนี้มันจะลักไก่ คนที่ไม่รู้ กับขี้เกียจก็จะยอมๆ มันไป
สรุปนะครับ
1. คุยอะไรกับพวกมันให้อัดเสียงไว้ด้วย
2. ถ้าเป็นไปได้ เรียกเผื่อมันกดราคาไว้เลย 50%
3. วิธีการกดราคาของพวกมันคือ มันจะต่อราคาเราก่อน เช่น ถ้าเราเรียกไป วันละ 500 บาท ซ่อมทั้งหมด 14 วัน เป็นเงิน 7000 บาท
มันก็จะต่อเหลือวันละ 300 ถ้าเรายอมเราก็จะนึกว่าเราจะได้ 4200 บาท แต่ไม่จบเท่านั้นครับ
มันจะหักวันเสาร์อาทิตย์อีก เท่ากับว่า เราจะได้แค่ 10 วัน 3000 บาทเท่านั้น
4.อย่าไปกลัวมัน ถ้ามันงี่เง่าก็ฟ้อง คปภ. เลยครับ ยื่นทางเว็ป ง่ายและสะดวกมาก ผมไป คปภ. ครั้งเดียวคือตอนที่ไปรับเงินครับ
ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ
Credit: กระทู้สนทนา (Anonymous source)